Cute Unicorn

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ลักษณะทั่วไป
     ร็อตไวเลอร์ที่อยู่ในอุดมคติควรอยู่ในขนาดปานกลาง ล่ำและมีพลัง ความกระทัดรัดที่โครงสร้างและบึกบึนเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความแข็งแรง สุนัขเพศผู้จะมีโครงสร้างที่ใหญ่กว่าสุนัขเพศเมีย โดยที่เพศเมียแม้จะมีขนาดเล็กกว่า สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขอารักขาที่น่าเกรงขาม เมื่อถูกฝึกให้ต่อสู้และโจมตี ก็จะทำอันตรายให้แก่ผู้บุกรุก แม้จะฝึกได้ไม่ยาก จึงต้องมีเจ้านายที่มีความเป็นจ่าฝูง มีความสุขุม มั่นคงทางอารมณ์ โดยธรรมชาติมันจะไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับภยันอันตรายที่จะเกิดขึ้น จะแสดงออกถึงความโดดเดี่ยวโดยธรรมชาติ


ความเป็นมา
     ร็อตไวเลอร์เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากที่มีมาตั้งแต่ยุคโรมัน สุนัขเหล่านี้ถูกใช้เป็นสุนัขเฝ้าไล่ต้อนฝูงสัตว์ร็อตไวเลอร์ ต้องเดินข้ามเทือกเขาแอลป์พร้อมกับกองทหารโรมันขนาดใหญ่ เพื่อคอยปกป้องคนและคอยไล่ต้อนฝูงปศุสัตว์ ต้นของศตวรรษที่ 20 ได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ มาทดสอบเพื่อใช้ในงานของตำรวจและร็อตไวเลอร์ ก็เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจนี้และเพราะฉะนั้นสายพันธุ์นี้จึงได้รับการรับรองให้ใช้เป็นสุนัขตำรวจในปี 1910 อย่างเป็นทางการ


ลักษณะนิสัย
     ร็อตไวเลอร์เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเพื่อดูแลความปลอดภัย และเป็นสุนัขใช้งานที่มีความมั่นใจหนักแน่น และปราศจากความกลัว แต่ต้องสอนให้ร็อตไวเลอร์รู้สถานะของตัวเขาในครอบครัว ปกติจะอดกลั้นกับเด็กได้ดี แต่พ่อแม่จำเป็นต้องให้แน่ใจว่าสอนให้ลูกๆ ปฏิบัติกับสุนัขอย่างเหมาะสมเช่นกัน และอยู่ด้วยทุกครั้งที่มีการฝึกสอนสุนัข


การดูแล
     เช่นเดียวกับสุนัขใช้งานพันธุ์อื่นๆ ร็อตไวเลอร์ต้องได้รับการแนะนำและฝึกฝนอย่างเคร่งครัด สำคัญอย่างยิ่ง จะต้องฝึกเค้าให้เข้ากับสังคมด้วย โดยให้ฝึกเป็นประจำตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขในบรรยากาศที่ไม่เคร่งเครียด นี่เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าคุณต้องการให้เขาโตขึ้นเป็นสุนัขที่รู้จักปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมในสถานการณืต่างๆ แม้จะจำเป็นต้องฝึกตั้งแต่อายุยังน้อยและคอยย้ำอย่างสม่ำเสมอ คุณก็ไม่ควรทำให้บรรยากาศการฝึกเครียดเกินไป ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่โตเร็วดังนั้นมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเรื่องโรคข้อสะโพกอักเสบและการอักเสบของกระดูก


ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมกับร็อตไวเลอร์ต้องมีความกระฉับกระเฉงสักนิดหน่อย เข้าใจพฤติกรรมสุนัข หรือไม่ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ ควรเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และเข้าใจความสำคัญของการพาสุนัขเข้าสังคมและฝึกตั้งแต่สุนัขยังเป็นลูกเลยทีเดียว ไม่ควรขังเขาไว้ในกรงหรือที่แคบเป็นเวลานานจะทำให้เขารู้สึกเครียด ควรพาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อเผาผลาญพลังงาน นอกจากจะไม่อ้วนแล้ว ยังเป็นน้องหมาที่มีพลังงานมั่นคง อารมณ์ดี และเป็นมิตรมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการฝึกหรือทำโทษเขา โดยใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เขาเครียด หวาดกลัว ปกป้องตัวเอง ไม่เชื่อฟังเจ้าของ และจู่โจมด้วยความรุนแรงในที่สุด อันที่จริงสุนัขพันธุ์นี้ อยู่ร่วมกับเด็กและครอบครัวได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่จะต้องระวังและปฏิบัติตามในสิ่งที่กล่าวมา


ความน่ารักของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์





วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บ็อกเซอร์ (Boxer)

ลักษณะทั่วไป
     บ็อกเซอร์ที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีต้นกำเนิดจากสุนัขพันธุ์บูลเลนไบส์เซอร์ขนาดเล็ก (บูลด็อกชนิดหนึ่ง)


ความเป็นมา
     บ็อกเซอร์มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี ผู้เลี้ยงมักนำไปใช้ล่าหมีและวัว ต่อมาบ็อกเซอร์กลายเป็นสุนัขคุ้มกันและป้องกันภัยในทางการทหารและตำรวจ หรืออาจจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในบ้านก็ยังได้


ลักษณะนิสัย
     บ็อกเซอร์มีความอดทนสูงและปกป้องเด็กๆได้ บ็อกเซอร์ชอบที่จะเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเจ้าของ ไม่ว่าตัวมันจะอายุมากแค่ไหน มีนิสัยที่รักสนุก ร่าเริงมาก อารมณ์คงที่ ไม่ก้าวร้าว แม้จะถูกรบกวน ไม่ขี้อาย ค่อนข้างเชื่อฟังคำสั่งและฝึกง่าย มีความซื่อสัตย์  จงรักภักดีต่อเจ้านายและคนในครอบครัว


การดูแล
     ในเรื่องของการให้อาหารนั้น บ็อกเซอร์เป็นสุนัขที่กินค่อนข้างง่าย ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารทั่วไปได้ตามความเหมาะสม ในเรื่องของการดูแลทำความสะอาดนั้น ควรอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หลังอาบหรือพาไปตากฝนแล้ว ควรเช็ดตัวให้แห้ง เพราะจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคครูมาติสม์ ผู้เลี้ยงควรมีสถานที่อบอุ่นให้สุนัขบ็อกเซอร์หลับนอน (ควรเป็นภายในบ้าน) และควรพาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ


ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ รวมถึงต้องมีเวลาที่จะเล่นกับสุนัข เพราะบ็อกเซอร์เป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวสูง ต้องการเล่นกับเจ้าของตลอดเวลา


ข้อควรจำ
     ควรหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้บ็อกเซอร์สีขาว เพื่อไม่ให้เกิดลูกสุนัขที่หูหนวก (สุนัขหูหนวกเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง) เพราะบ็อกเซอร์สีขาว มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเพราะสภาวะอากาศ


ความน่ารักของบ็อกเซอร์




วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)

ลักษณะทั่วไป
     ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเรียกสั้นๆว่า ไซบีเรียน สุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น แข็งแรง คล่องแคล่ว มีหน้าตาเป็นอาวุธเพราะ หน้าดุ ทำให้คนสามารถกลัวได้ ลักษณะคล้ายหมาป่า แต่จริงๆแล้ว ไม่ดุเหมือนหน้าตาหรอกนะ เป็นมิตรกับคนและเข้ากับคนได้ง่าย สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนนี้จะรู้จักกันดีในกีฬาลากเลื่อนที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม


ความเป็นมา
     ไซบีเรียน ฮัสกี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า "ฮัสกี้" ได้มาจากชื่อที่เรียกชาวอินนูอิต (Inuit) โดยเฉพาะพันธุ์มากจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์ (สุนัขขนยาวและหนา) ของชาวชุกซี ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาในอลาสกาและ แพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900 ต่อมาจึงนำไซบีเรียนเลี้ยงเป็นสุนัขตามบ้าน


ลักษณะนิสัย
     ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ฉลาด ไฮเปอร์ตื่นตัว พลังงานสูง สมาธิค่อนข้างสั้น รักอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เข้าขั้นเรียกว่า ดื้อ ขี้บ่น ขี้เถียง ฝึกยาก เป็นนักทำลายข้าวของตัวยง แต่ไซบีเรียนเป็นน้องหมาที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าจะคุ้นหน้า หรือแปลกหน้า ไหวพริบดี ฉลาดแกมโกง ซึ่งไหวพริบกับความฉลาดที่มีของพวกเขานั้นไม่ค่อยได้เอาไปใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่ โดยส่วนมากจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมเพื่อหาทางซุกซนมากกว่า ไซบีเรียน ฮัสกี้ ชอบหอนมากกว่าเห่า จนกลายเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและเพื่อนบ้าน พวกเขาค่อนข้างฝึกยาก จึงควรได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน วันละ 10-15 นาที แต่ควรได้รับการออกกำลังกายเป็นประจำ ทุกวันมากกว่า 15 นาที โดยการวิ่ง เพื่อให้พวกเขาได้เผาผลาญพลังงาน ไม่ซุกซนจนเกินควร


การดูแล
     การให้อาหารของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนนั้น จะให้ 2-3 ครั้ง/วัน แต่สุนัขพันธุ์นี้ค่อนข้างจะกินอะไรยากอยู่เช่นกัน หากไม่ถูกปาก มันจะยอมอดอาหารได้ 3-4 วัน ดังนั้นวิธีการที่จะกระตุ้นความอยากอาหารได้ ควรพาสุนัขไปออกกำลังกาย ส่วนของอาหารผู้เลี้ยงสามารถนำอาหารสำเร็จรูปมาผสมกับอาหารอื่นได้ เพื่อเพิ่มรสชาติ และอรรถรสในการกินเพิ่มมากขึ้น อาหารที่สุนัขไซบีเรียนโปรดปรานที่สุดคือ อาหารที่มีปลาเป็นส่วนผสม สุนัขจะกินหมดได้อย่างรวดเร็ว

     ส่วนเรื่องของการทำความสะอาดนั้น ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป อาบ 2-3 สัปดาห์/ครั้งก็พอ เพราะไซบีเรียนนั้น เป็นสุนัขสะอาด ไม่มีกลิ่นตัว หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สกปรก ก็ไม่จำเป็นที่จะอาบน้ำบ่อย ก็ได้ ที่สำคัญเวาลาอาบน้ำ ต้องใช้แชมพูอาบน้ำสุนัขโดยเฉพาะ ควรมีความอ่อนโยนมากๆ และหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว จะต้องใช้ไดร์ เป่าขนให้แห้งสนิท อาจใช้ระยะเวลานาน แต่เพื่อไม่ให้น้องไซบีเรียนเป็นโรคผิวหนัง

     เรื่องของขนสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงควรใส่ใจ หากอยู่ในช่วงฤดูผลัดขนนั้น มันจะมีปริมาณขนที่ผลัดออกมาเยอะมากๆ ฉะนั้นผู้เลี้ยงจะต้องหมั่นดูแล และแปรงขน เพื่อไม่ให้ขนพันกัน ส่วนเรื่องของสุขภาพของสุนัขก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น และผู้เลี้ยงควรจะให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพจิตของสุนัขดีขึ้นด้วย ควรใช้เวลาในการออกกำลังกาย 15 นาที/วัน ดีที่สุดและทำทุกๆวัน

     ผู้เลี้ยงจะต้องทราบ หากไม่พาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไซบีเรียนจะกลายเป็นตัวยุ่ง ก่อความรำคาญให้ทันที เพราะมันจะเกิดความเบื่อหน่าย จึงต้องหาอะไรทำเพื่อลดความเบื่อหน่ายลงไป อีกทั้งการออกกำลังกายยังเป็นการกระตุ้นให้ไซบีเรียนนั้นอยากอาหารไปในตัวอีกด้วย


ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     ไซบีเรียนเหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะดูแล มีเวลาให้ และให้ทุกอย่างที่มันต้องการได้ ไม่ว่าจะออกกำลังกายและมิตรภาพจากเจ้าของ เพื่อสร้างมิตรภาพระหว่างเจ้านายกับสุนัข จะทำให้สุนัขเชื่อฟังและไม่ดื้อกับเจ้าของของมัน


ความน่ารักๆ ของสุนัขพันธุ์นี้